เมื่อวันที่ 25-27 มิถุนายน 2566 นายโวสิต วรทรัพย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เดินทางเยือนแคว้นกาลิเซีย เพื่อศึกษาศักยภาพทางเศรษฐกิจและพบปะกับผู้บริหารระดับสูงภาครัฐและเอกชนของแคว้นฯ ตลอดจนชุมชนไทยในพื้นที่ โดยมีกิจกรรม ดังนี้
วันที่ 25 มิถุนายน 2566 เอกอัครราชทูตฯ และคณะ ได้พบปะกับชุมชนไทยบางส่วนที่อาศัยอยู่ในแคว้นกาลิเซีย ณ ร้านอาหาร Thai Bangkok Cuisine เมือง A Coruna โดยเอกอัครราชทูตฯ ได้รับฟังข้อมูลเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่และการทำงานของคนไทยในพื้นที่ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการนำมาพัฒนาการทำงานของสถานเอกอัครราชทูตฯ ให้สามารถให้บริการและดูแลคนไทยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
วันที่ 26 มิถุนายน 2566 เวลา 9.30 น. เอกอัครราชทูตฯ และคณะ ได้เยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ของบริษัท Inditex ที่เมือง A Coruna โดยมีนาย Oscar Garcia Maceiras ตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ Inditex เป็นบริษัทข้ามชาติของสเปนที่เป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำ อาทิ Zara, Pull and Bear, Bershka, และ Massimo Dutti เป็นต้น และปัจจุบันมีการลงทุนเปิดร้านในไทย จำนวน 20 สาขา ในการนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้ เชิญชวนให้บริษัทฯ ขยายกิจการเพิ่มเติมในไทย และพิจารณานำศิลปะและวัฒนธรรม รวมถึงผ้าไหมของไทยมาประยุกต์ในงานออกแบบเสื้อผ้า ของบริษัทฯ ด้วย
ต่อมา ในเวลา 12.00 น. ของวันเดียวกัน เอกอัครราชทูตฯ และคณะ ได้เข้าพบหารือกับนาง Maria Pais Fajin ประธานหอการค้าแคว้นกาลิเซีย โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับแคว้นกาลิเซีย โดยเฉพาะในสาขาที่แคว้นฯ มีศักยภาพ ได้แก่ พลังงานทดแทน (พลังงานลมและแสงอาทิตย์) อุตสาหกรรมยานยนต์ (โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า) และอาหารทะเลแช่แข็ง รวมถึง จะร่วมมือกันผลักดันให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนของคณะผู้แทนภาคเอกชนทั้งสองประเทศในอนาคตด้วย
จากนั้นในเวลา 18.30 น. เอกอัครราชทูตฯ และคณะ ได้เข้าพบกับนาย Diego Calvo รองประธานแคว้นกาลิเซีย (ในฐานะผู้แทนนาย Alfonso Rueda ประธานแคว้นฯ) โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับลู่ทางในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับแคว้นกาลิเซียให้เพิ่มมากขึ้น ในการนี้เอกอัครราชทูตฯ ได้แสดงความขอบคุณรัฐบาลแคว้นกาลิเซียที่ให้การอำนวยความสะดวกและดูแลคนไทยในพื้นที่ซึ่งมีอยู่ประมาณ 30 คนด้วยดี และขอรับการสนับสนุนจากทางการท้องถิ่นในการอนุญาตให้ผู้ประกอบการสามารถนำเข้าพ่อครัว/แม่ครัว รวมถึงพนักงานนวดสปาจากไทยมาทำงานได้มากขึ้น ตลอดจนการผลักดันเส้นทางการบินตรงระหว่างไทยกับสเปน เพื่อเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกและผลักดันให้เกิดการขยายตัวของการติดต่อธุรกิจระหว่างภาคเอกชนไทยกับสเปนอีกทางหนึ่งด้วย
วันที่ 27 มิถุนายน 2566 เอกอัครราชทูตฯ และคณะ ได้เยี่ยมชมการดำเนินงานของท่าเรือเมืองบิโก และพบหารือกับนาย Carlos Botana Lagaron ประธานการท่าเรือเมืองบิโก โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าและการขนส่งทางเรือ โดยปัจจุบัน ปริมาณน้ำหนักของสินค้าที่มีการส่งออก-นำเข้าระหว่างไทยและท่าเรือบิโก อยู่ที่ประมาณ 6,000 ตัน ซึ่งยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมากในอนาคต